Pages

Wednesday, July 22, 2020

"เวชธานี" ชูคุ้มค่าคุ้มราคาสู้ไวรัส-เลื่อนแผนเข้าตลาดหุ้น - ประชาชาติธุรกิจ

bosaboca.blogspot.com

โรงพยาบาลเวชธานีกางแผนครึ่งปีหลัง เร่งพัฒนาระบบดูแล-สร้างความมั่นใจคนไข้ ชูคุ้มค่า-คุ้มราคา สู้โควิด-19 โดดร่วมโครงการ ศบค. ดึงคนไข้ต่างประเทศเข้ามารักษา กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต ประเทศในแถบอาเซียนแห่สมัคร ดีเดย์สิงหาคมนี้ หวั่นปัจจัยลบเศรษฐกิจ-กำลังซื้อ รักษาฐานลูกค้าเก่า ประกาศชะลอลงทุนลดค่าใช้จ่าย เลื่อนแผนเข้าตลาดหุ้น

นายแพทย์ตุลวรรธน์ พัชราภา ผู้อำนวยการปฏิบัติการ โรงพยาบาลเวชธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนตื่นกลัวที่จะใช้บริการในโรงพยาบาล ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนอย่างยิ่งในแง่ของจำนวนคนไข้ที่ลดลง ทำให้โรงพยาบาลแต่ละแห่งพยายามจะชูจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญการรักษาเฉพาะด้าน การบริการ ชื่อเสียงของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับโรงพยาบาลเอกชนที่เน้นจับกลุ่มคนไทย ขณะนี้ต้องติดตามในไตรมาส 3 ว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนโรงพยาบาลที่มีลูกค้าต่างชาติเป็นหลักจะขึ้นอยู่กับมาตรการของรัฐบาล

หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ได้ออกมาตรการในการรับผู้ป่วยต่างชาติเข้ามารักษาในประเทศ (medical and wellness) เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โรงพยาบาลเวชธานีได้สมัครเข้าร่วมโครงการให้เป็นสถานกักกันในโรงพยาบาล และขณะนี้มีคนไข้ต่างประเทศติดต่อเข้ามาลงทะเบียนเพื่อเดินทางเข้ามารักษาตัว ซึ่งเป็นกลุ่มคนไข้เดิมของโรงพยาบาลที่จะเข้ามารักษากลุ่มแรกในช่วงเดือนสิงหาคม ได้แก่ ตะวันออกกลาง กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคูเวต รวมถึงประเทศในแถบอาเซียน

“คนไข้ที่ต้องการเข้ามารักษาตามโครงการนี้จะสามารถเลือกโรงพยาบาล และต้องขออนุญาต และมีใบรับรองจากทั้งประเทศต้นทาง และประเทศปลายทาง ควบคู่กับแผนการรักษา และคนไข้ 1 คน สามารถมีผู้ติดตามไม่เกิน 3 คน และมีวีซ่าจำกัด 90 วัน ซึ่งคนไข้และญาติจะต้องแยกกันอยู่ พร้อมกำหนดเวลาเยี่ยมเป็นเวลา ตลอดจนในช่วงกักตัว 14 วัน จะไม่สามารถเดินทางไปไหนได้”

นายแพทย์ตุลวรรธน์กล่าวว่า ขณะนี้เวชธานีได้มีการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับคนไข้กลุ่มนี้ ทั้งทีมแพทย์ พยาบาล และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ พร้อมศึกษามาตรฐานในแง่ของการควบคุมโรคติดเชื้อ ควบคู่กับการซ้อมรับ-ส่งคนไข้ โดยคนไข้ที่จะมา จะต้องยื่นเรื่องผ่านสถานทูต ต้องตรวจโควิด-19 เป็นลบภายใน 3 วัน และต้องใช้เวลายื่นเอกสาร 4 อาทิตย์ หลังจากนั้นตรวจอีก 1 รอบ โดยกลุ่มที่มาจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ กลุ่มที่รัฐบาลออกค่าใช้จ่ายให้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะมีภาครัฐการันตีในการรักษาพยาบาล และอีกหนึ่งกลุ่ม ต้องจ่ายค่ารักษาเอง แต่ทั้งคนไข้และญาติจะต้องมีประกันสุขภาพด้วยงบฯการรักษาประมาณ 1 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ที่ผ่านมา เวชธานีมีคนไข้แบ่งเป็นคนไทย 70% และต่างชาติ 30% แต่หลังจากต้องเผชิญกับวิกฤตไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของโรงพยาบาล โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน จำนวนคนไข้น้อยลง ส่วนคนไข้ชาวต่างชาติเท่ากับศูนย์ ส่งผลให้ต้องปรับนโยบายการดำเนินงาน โดยหลัก ๆ จะเน้นเรื่องความเชื่อมั่นในการให้บริการ ตั้งแต่การคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิอย่างเข้มงวด พร้อมแยกจุดคัดกรองของคลินิกการรักษาด้านต่าง ๆ เพื่อควบคุมเชื้อต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ

นายแพทย์ตุลวรรธน์กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง คีย์หลักที่ต้องทำ คือ พัฒนาระบบการทำงานด้านการดูแลคนไข้ และบุคลากร วางแผนร่วมกันเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากนี้ สิ่งที่ยังน่าเป็นห่วงคือปัจจัยของภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว ผู้คนระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยกลยุทธ์หลักของโรงพยาบาลจะต้องทำให้คนไข้มั่นใจว่าการรับบริการจะต้องคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย ปัจจุบันโรงพยาบาลมีจุดแข็งการรักษา ได้แก่ การรักษาโรคกระดูกสันหลัง และข้อเข่า ตามด้วยการทำกายภาพบำบัด ที่มีเครื่องมือครบวงจร รวมถึงการทำศัลยกรรมโรคทวารหนักและลำไส้ใหญ่ และการรักษาโรคมะเร็ง และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแล การรักษาทั้งหมดนี้จะเข้ามาเสริมจุดแข็งของโรงพยาบาล

ปัจจุบันมีบุคลากรการแพทย์ฟูลไทม์ 120 คน และสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 160 เตียง ถือว่าเพียงพอต่อจำนวนการใช้งาน เนื่องจากปัจจุบันการรักษาส่วนใหญ่จะใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลไม่นาน เพราะเป้าหมายของคนไข้ คือ หากฟื้นตัวได้ไว ค่าใช้จ่ายในการรักษาจะถูกลง ซึ่งกลยุทธ์หลักจะต้องรักษาฐานลูกค้าเก่า ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมาจากการแนะนำหรือบอกต่อจากกลุ่มเพื่อน ตลอดจนการค้นหารีวิวของผลการรักษา สิ่งหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ คือ การติดตามคนไข้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่อยู่ต่างประเทศ โดยจะติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้ต่อเนื่อง

ส่วนโปรเจ็กต์ลงทุนที่ผ่านมา ได้ลงทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2562 ที่สร้างศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ตึก 6 ชั้น ที่จะดูแลและรักษาโรคกระดูกและข้อ โดยจะมีกำหนดการสร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4 ส่วนแผนเดิมที่จะขยายสาขาโรงพยาบาลต้องชะลอไว้ก่อน โดยจากนี้ไปจะต้องระมัดระวัง เช่นเดียวกับแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯได้เตรียมความพร้อมมาตรฐานด้านบัญชี และมีที่ปรึกษาไว้เรียบร้อย พร้อมทุกอย่าง แต่ปีนี้ต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ยังผันผวน

“ตอนนี้หลาย ๆ ธุรกิจชะลอการลงทุนจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งเศรษฐกิจ กำลังซื้อ ภาคการผลิตกับภาคการเงินไม่ได้สอดคล้องกัน และเมื่อผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมา ทุกภาคธุรกิจจะได้รับผลกระทบ ดังนั้น เป้าหมายของเวชธานีตอนนี้ต้องประคองธุรกิจให้อยู่รอด” นายแพทย์ตุลวรรธน์กล่าว

Let's block ads! (Why?)



"เลื่อน" - Google News
July 22, 2020 at 03:32AM
https://ift.tt/3hoo0J7

"เวชธานี" ชูคุ้มค่าคุ้มราคาสู้ไวรัส-เลื่อนแผนเข้าตลาดหุ้น - ประชาชาติธุรกิจ
"เลื่อน" - Google News
https://ift.tt/36KhZmd
Home To Blog

No comments:

Post a Comment